วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

มารู้จักครูแอมกันค่ะ

       ข้อมูลพื้นฐาน

   














     สวัสดีคร๊าาาาาาาาาาาาาา

ชื่อ :นางสาว พวงประภา  อินทร์อุ่นโชติ      

ชื่อเล่น :แอม


เกิดวัน พุธ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2537 อายุ 22 ปี 


สถานะ :โสด


เบอร์โทร: 087-210xxxx


งานอดิเรก : นอนฟังเพลง 

ความสามารถพิเศษ : เล่นบาสเกตบอล 


ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

สาขาวิชาพลศึกษาและการจัดการกีฬาชั้นปีที่ 4 คณะครุศาสตร์

คติประจำใจ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

ความใฝ่ฝัน: คุณครู, ตำรวจ,  ทหาร



ยินดีต้อนรับ นักเรียนทุกคน นะค่ะ


ทักษะการชูตขั้นเทพ บลาๆๆๆๆ

  มาชมคลิปการชูตบาสเกตบอลมหัศจรรย์กันค่ะ






ข้อมูลจาก  www.youtube.com

ประวัติของกีฬาบาสเกตบอล


บาสเกตบอล (อังกฤษ: basketball) เป็นกีฬาชนิดหนึ่งซึ่งแบ่งผู้เล่นเป็น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 5 คนพยายามทำคะแนนโดยการโยนลูกเข้าห่วงหรือตะกร้า (basket) ภายใต้กติกาการเล่นมาตรฐาน
ตั้งแต่ที่คิดค้นขึ้นในปี พ.ศ. 2434 (ค.ศ. 1891) โดยเจมส์ เนสมิท[1] บาสเกตบอลได้ถูกพัฒนาขึ้นเป็นกีฬาสากลโลก กีฬานี้มีจุดเริ่มต้นจากในวายเอ็มซีเอ[1][2] ลีกที่เกิดขึ้นในสมัยแรก ๆ เป็นระดับมหาวิทยาลัย ต่อมากลายเป็นกีฬาอาชีพ[ต้องการอ้างอิง] มีการจัดตั้งลีกเอ็นบีเอ (National Basketball Association, NBA) และเริ่มมีการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเมื่อ พ.ศ. 2479 (ค.ศ. 1936)[1] ถึงแม้ว่าในระยะแรกยังเป็นกีฬาที่เล่นเฉพาะในสหรัฐอเมริกา กีฬาชนิดนี้แพร่ขยายไปสู่ระดับสากลด้วยความรวดเร็ว ปัจจุบันมีนักกีฬาและทีมที่มีชื่อเสียงตามที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นในร่มเป็นหลัก สนามที่ใช้เล่นมีขนาดค่อนข้างเล็ก คะแนนจะได้จากการโยนลูกเข้าห่วงจากด้านบน (ชู้ต, shoot) ทีมที่มีคะแนนมากกว่าในตอนจบเกมจะเป็นฝ่ายชนะ สามารถนำพาลูกโดยการกระเด้งกับพื้น (เลี้ยงลูก, dribble) หรือส่งลูกกันระหว่างเพื่อนร่วมทีม เกมจะห้ามการกระทบกระแทกที่ทำให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ (ฟาวล์, foul) และมีกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการครองบอล
เกมบาสเกตบอลมีการพัฒนาเทคนิคการเล่นต่าง ๆ เช่น การชู้ต การส่ง และ การเลี้ยงลูก รวมไปถึงตำแหน่งผู้เล่น (ซึ่งตามกฎแล้วไม่จำเป็นต้องมี) และตำแหน่งการยืนในเกมรุกและเกมรับ ผู้เล่นที่ตัวสูงถือเป็นข้อได้เปรียบ ถึงแม้ว่าในการเล่นแข่งขันจะควบคุมโดยกฎกติกา การเล่นรูปแบบอื่น ๆ สำหรับเล่นผ่อนคลายก็มีการคิดขึ้น บาสเกตบอลยังเป็นกีฬาที่คนนิยมดูอีกด้วย


ประวัติ

ยุคแรกของบาสเกตบอล

สนามบาสเกตบอลแห่งแรก ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์
ความพิเศษอย่างหนึ่งของบาสเกตบอล คือถูกคิดขึ้นโดยคนเพียงคนเดียว ต่างจากกีฬาส่วนใหญ่ที่วิวัฒนาการมาจากกีฬาอีกชนิด ช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2434 ดร. เจมส์ ไนสมิท ครูสอนพละศึกษาชาวอเมริกันที่เกิดในแคนาดา และเป็นผู้ดูแลสถานที่ของวิทยาลัยแห่งหนึ่งของสมาคมวายเอ็มซีเอ (ปัจจุบันคือ วิทยาลัยสปริงฟิลด์) ในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ค้นหาเกมในร่มที่ช่วยให้คนมีกิจกรรมทำระหว่างฤดูหนาวในแถบนิวอิงแลนด์ว่ากันว่า หลังจากเขาไตร่ตรองหากิจกรรมที่ไม่รุนแรงเกินไปและเหมาะสมกับโรงยิม เขาเขียนกฎพื้นฐานและตอกตะปูติดตะกร้าใส่ลูกพีชเข้ากับผนังโรงยิม[4] เกมแรกที่เล่นเป็นทางการเล่นในโรงยิมวายเอ็มซีเอในเดือนถัดมา คือเมื่อ 20 มกราคม พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1891) ในสมัยนั้น เล่นโดยใช้ผู้เล่นเก้าคน[5] สนามที่ใช้ก็มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของสนามเอ็นบีเอในปัจจุบัน ชื่อ บาสเกตบอล เป็นชื่อที่เสนอโดยนักเรียนคนหนึ่ง และก็เป็นชื่อที่นิยมมาตั้งแต่ตอนต้น เกมแพร่ขยายไปยังวายเอ็มซีเอที่อื่นทั่วสหรัฐอเมริกา ไม่นานนักก็มีเล่นกันทั่วประเทศ
แต่ที่น่าสนใจคือ ถึงแม้ว่าวายเอ็มซีเอจะเป็นผู้ที่พัฒนาและเผยแพร่เกมในตอนแรก ภายในหนึ่งทศวรรษสมาคมก็ไม่สนับสนุนกีฬานี้อีก เนื่องจากการเล่นที่รุนแรงและผู้ชมที่ไม่สุภาพ สมาคมกีฬาสมัครเล่นอื่นๆ มหาวิทยาลัย และทีมอาชีพก็เข้ามาแทนที่ ก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สหภาพการกีฬาสมัครเล่น (Amateur Athletic Union) และ สมาคมการแข่งขันกีฬาระหว่างวิทยาลัย (Intercollegiate Athletic Association) (ซึ่งปัจจุบันคือเอ็นซีดับเบิลเอ, NCAA) ได้แข่งกันเพื่อจะเป็นผู้กำหนดกติกาของเกม
เดิมนั้นการเล่นบาสเกตบอลจะใช้ลูกฟุตบอล ลูกบอลที่ทำขึ้นสำหรับบาสเกตบอลโดยเฉพาะในตอนแรกมีสีน้ำตาล ช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 จึงเปลี่ยนมาใช้ลูกสีส้มเพื่อให้ผู้เล่นและผู้ชมมองเห็นลูกได้ง่ายขึ้น และก็ใช้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ผู้ที่ริเริ่มใช้ลูกบาสเกตบอลสีส้มคือนาย โทนี ฮิงเคิล (Tony Hinkle) โค้ชมหาวิทยาลัยบัตเลอร์ (Butler University

ลีกระดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา และลีกอื่น ๆ

การแข่งขันระดับมหาวิทยาลัย ปี พ.ศ. 2520
ไนสมิทเป็นตัวตั้งตัวตีในการเริ่มบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัย[ต้องการอ้างอิง] โดยเป็นโค้ชให้กับมหาวิทยาลัยแคนซัส (University of Kansas) เป็นเวลาหกปี ลีกระดับมหาวิทยาลัยถือกำเนิดในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 และเริ่มทัวร์นาเมนต์ที่ชื่อเอ็นไอที (National Invitation Tournament, NIT) ในนิวยอร์กเมื่อปีพ.ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) ช่วง พ.ศ. 2491 ถึง 2494 บาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยประสบปัญหานักกีฬาโดนซื้อเพื่อผลทางการพนัน[7] เนื่องจากกลุ่มคนที่โกงนี้เกี่ยวข้องกับเอ็นไอที ทำให้อีกทัวร์นาเมนต์ซึ่งเป็นของเอ็นซีเอเอ (NCAA) ขึ้นแซงเอ็นไอทีในแง่ความสำคัญ[ต้องการอ้างอิง] ปัจจุบันทัวร์นาเมนต์เอ็นซีดับเบิลเอ หรือที่นิยมเรียกกันว่า มาร์ชแมดเนส (March Madness ซึ่งแข่งในช่วงเดือนมีนาคมของทุกปี) ถือเป็นรายการแข่งขันระดับต้นๆ ในสหรัฐเป็นรองแค่เพียงซูเปอร์โบลของกีฬาอเมริกันฟุตบอล และ เวิลด์ซีรีส์ของกีฬาเบสบอลเท่านั้น
ในคริสต์ทศวรรษ 1920 มีทีมบาสเกตบอลอาชีพเกิดขึ้นเป็นร้อยทีมตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐอเมริกา ไม่มีการจัดระบบเกมอาชีพ เช่น นักกีฬาย้ายทีมไปมา ทีมแข่งกันในโรงเก็บอาวุธและโรงเต้นรำ มีลีกเกิดใหม่และล้มไป บางทีมเล่นถึงสองร้อยเกมในปีหนึ่งก็มี[ต้องการอ้างอิง]
ส่วนระดับไฮสกูล (มัธยมปลาย) ของสหรัฐก็เป็นที่นิยมเช่นเดียวกัน ปัจจุบันเกือบทุกโรงเรียนจะมีทีมบาสเกตบอลประจำโรงเรียน ในฤดูกาล ทั่วทั้งสหรัฐมีนักเรียนชายหญิงรวมกันถึง 1,002,797 คนเล่นเป็นตัวแทนในการแข่งขันระหว่างโรงเรียน[ต้องการอ้างอิง] รัฐอินดีแอนาและเคนทักกีเป็นสองรัฐที่คนให้ความสนใจบาสเกตบอลระดับไฮสกูลมากเป็นพิเศษ[ต้องการอ้างอิง]

เอ็นบีเอ

สัญลักษณ์ของเอ็นบีเอ
ในปี พ.ศ. 2489 ถือกำเนิดลีกเอ็นบีเอ (National Basketball Association, NBA) ก่อตั้งโดยรวบรวมทีมอาชีพชั้นนำ[ต้องการอ้างอิง] และทำให้กีฬาบาสเกตบอลระดับอาชีพได้รับความนิยมสูงขึ้น ปี พ.ศ. 2510 มีการจัดตั้งลีกเอบีเอ (American Basketball Association, ABA) ขึ้นอีกลีกมาเป็นคู่แข่งอยู่พักหนึ่ง[ต้องการอ้างอิง] ก่อนที่ลีกทั้งสองก็ควบรวมกันในปี พ.ศ. 2519[ต้องการอ้างอิง]
ในเอ็นบีเอมีผู้เล่นมีชื่อเสียงหลายคน เช่น จอร์จ มิคาน (George Mikan) ผู้เล่นร่างใหญ่ที่โดดเด่นคนแรก บอบ คอสี (Bob Cousy) ผู้มีทักษะการครองบอล บิล รัสเซล (Bill Russell) ผู้ที่เก่งด้านการตั้งรับ วิลท์ แชมเบอร์เลน (Wilt Chamberlain) รวมถึง ออสการ์ รอเบิร์ตสัน (Oscar Robertson) และ เจอร์รี เวสต์ (Jerry West) ผู้ที่เก่งในรอบด้าน คารีม อับดุล-จับบาร์ (Kareem Abdul-Jabbar) และ บิล วอลตัน (Bill Walton) ผู้เล่นร่างยักษ์ในยุคหลัง จอห์น สต็อกตัน (John Stockton) ผู้ที่มีทักษะการคุมเกม ตลอดจนผู้เล่นสามคนที่ทำให้เอ็นบีเอได้รับความนิยมจนถึงขีดสุด คือ แลร์รี เบิร์ด (Larry Bird) แมจิก จอห์นสัน (Magic Johnson) และ ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan)
ลีกดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ (Women's National Basketball Association, WNBA) สำหรับบาสเกตบอลหญิงเริ่มเล่นในปี พ.ศ. 2540[ต้องการอ้างอิง] ถึงแม้ว่าในฤดูกาลแรกจะไม่ค่อยมั่นคงนัก นักกีฬามีชื่อหลายคน เช่น เชอริล สวูปส์ (Sheryl Swoopes) , ลิซา เลสลี (Lisa Leslie) และ ซู เบิร์ด (Sue Bird) ช่วยเพิ่มความนิยมและระดับการแข่งขันของลีก ลีกบาสเกตบอลหญิงอื่นๆ ล้มไปเนื่องจากความสำเร็จของดับเบิ้ลยูเอ็นบีเอ[ต้องการอ้างอิง]

บาสเกตบอลระดับสากล

สหพันธ์บาสเกตบอลนานาชาติ (International Basketball Federation) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2475 มีสมาชิกก่อตั้งแปดชาติ ได้แก่อาร์เจนตินา เชโกสโลวาเกีย กรีซ อิตาลี ลัตเวีย โปรตุเกส โรมาเนีย และสวิตเซอร์แลนด์ ในสมัยนั้นหน่วยงานดูแลเฉพาะนักกีฬาสมัครเล่น ดังนั้นในชื่อย่อจากภาษาฝรั่งเศสของสหพันธ์ หรือ ฟีบา (FIBA) ตัวอักษร "A" ย่อมาจากคำว่า "amateur" ซึ่งแปลว่าสมัครเล่น
บาสเกตบอลถูกบรรจุในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2479 ถึงแม้ว่าเคยจัดการแข่งขันเป็นกีฬาสาธิตก่อนหน้านั้นนานมากเมื่อ พ.ศ. 2447 สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่เก่งกีฬานี้ และทีมชาติสหรัฐพลาดเหรียญทองเพียงสามครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกที่พลาดแข่งที่มิวนิกในปี พ.ศ. 2515 โดยแพ้ให้กับทีมสหภาพโซเวียต การแข่งขันเวิลด์แชมเปียนชิปส์ (World Championships) สำหรับบาสเกตบอลชายเริ่มแข่งปี พ.ศ. 2493 ที่ประเทศอาร์เจนตินา ส่วนประเภทหญิงเริ่มแข่งสามปีถัดมาในประเทศชิลี กีฬาบาสเกตบอลหญิงเริ่มแข่งในโอลิมปิกปี พ.ศ. 2519 โดยมีทีมที่โดดเด่นเช่น บราซิล ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา
ฟีบา ยกเลิกการแบ่งผู้เล่นเป็นสมัครเล่นและอาชีพเมื่อ พ.ศ. 2532 และปี พ.ศ. 2535 ผู้เล่นอาชีพก็ได้แข่งในกีฬาโอลิมปิกเป็นครั้งแรก ความยิ่งใหญ่ของสหรัฐอเมริกากลับมาอีกครั้งโดยการส่งดรีมทีม ที่ประกอบด้วยผู้เล่นจากเอ็นบีเอ แต่ปัจจุบันประเทศอื่นสามารถพัฒนาตามทันสหรัฐอเมริกา ทีมที่มีผู้เล่นเอ็นบีเอล้วนๆ ได้ที่หกในการแข่งเวิลด์แชมเปียนชิปส์ในปี พ.ศ. 2545 ที่เมืองอินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา สหรัฐอเมริกา ตามหลัง เซอร์เบียและมอนเตเนโกรอาร์เจนตินา เยอรมนี นิวซีแลนด์ และ สเปน ในโอลิมปิกปี พ.ศ. 2547 สหรัฐแพ้เป็นครั้งแรกนับจากที่เริ่มใช้ผู้เล่นอาชีพ โดยพ่ายให้กับทีมชาติเปอร์โตริโก และสุดท้ายได้เป็นอันดับสาม รองจากอาร์เจนตินา และอิตาลี
ปัจจุบัน มีการแข่งขันทัวร์นาเมนต์บาสเกตบอลทั่วโลกในทุกระดับอายุ ตั้งแต่ห้าจนถึงหกสิบปี ระดับไฮสกูล (มัธยมปลาย) มหาวิทยาลัย ไปจนถึงระดับลีกอาชีพ และมีแข่งทั้งประเภทชายและหญิง
ความนิยมกีฬาชนิดนี้ทั่วโลกสังเกตได้จากสัญชาติของผู้เล่นในเอ็นบีเอ จะสามารถพบนักกีฬาจากทั่วทุกมุมโลก สตีฟ แนช (Steve Nash) ผู้ที่ได้รับรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าในเอ็นบีเอปี พ.ศ. 2548 เป็นชาวแคนาดาที่เกิดที่ประเทศแอฟริกาใต้ ดาราดังของทีมดัลลัส แมฟเวอริกส์ เดิร์ก โนวิตสกี (Dirk Nowitzki) ก็เกิดในประเทศเยอรมนีและเล่นให้กับทีมชาติเยอรมนี
อีกตัวอย่างซึ่งแสดงให้เห็นการพัฒนาถึงระดับโลก คือทีมออลทัวร์นาเมนต์ ซึ่งประกอบด้วยผู้เล่นยอดเยี่ยมจากการแข่งเวิลด์แชมเปียนชิปส์ปี พ.ศ. 2545 ได้แก่ เดิร์ก โนวิตสกี, เพยา สโตยาโควิช (Peja Stojakovic) จากเซอร์เบียและมอนเตเนโกร, มานู จิโนบิลี (Manu Ginobili) จากอาร์เจนตินา, เหยา หมิง (Yao Ming) จากจีน และ เพโร คาเมรอน (Pero Cameron) จากนิวซีแลนด์ทุกคนยกเว้นคาเมรอนเป็นหรือจะเป็นผู้เล่นในเอ็นบีเอในเวลาต่อมา

กฎและกติกา

กฎเกี่ยวกับขนาดและเวลาที่ใช้แข่ง อาจแตกต่างกันขึ้นกับทัวร์นาเมนต์หรือองค์กรที่จัดการแข่งขัน รายละเอียดในส่วนนี้จะใช้ของสากลและเอ็นบีเอเป็นหลัก
จุดมุ่งหมายของเกมคือ การทำคะแนนให้ได้มากกว่าคู่แข่งโดยการโยนลูกเข้าห่วงของคู่ต่อสู้จากด้านบน ในขณะที่ป้องกันไม่ให้คู่ต่อสู่โยนลูกลงห่วงของฝ่ายตน การโยนลูกในลักษณะนี้เรียกว่าการชู้ต (หรือช็อต shot) การชู้ตที่เข้าห่วงจะได้สองคะแนน แต่ถ้าผู้ชู้ตอยู่เลยเส้นสามคะแนนออกไปในขณะชู้ตลูกก็จะได้สามคะแนน เส้นสามคะแนนจะอยู่ห่างจากห่วงเป็นระยะ 6.75 เมตร (22 ฟุต 1 3/4 นิ้ว) ในกติกาสากล และ 23 ฟุต 9 นิ้ว (7.24 เมตร) ในกติกาเอ็นบีเอ การชู้ตลูกโทษหรือที่เรียกว่า ฟรีโทรว์ (free throw) เมื่อฟาวล์มีค่าหนึ่งคะแนน

กติกาการเล่น

เกมจะแบ่งการเล่นเป็น 4 ควอเตอร์ (quarter) แต่ละควอเตอร์มี 10 นาที (สากล) หรือ 12 นาที (เอ็นบีเอ) ช่วงพักครึ่งนาน 15 นาที ส่วนพักอื่นๆ ยาว 2 นาที ช่วงต่อเวลา (overtime) ยาว 5 นาที ทีมจะสลับด้านสนามเมื่อเริ่มครึ่งหลัง เวลาจะเดินเฉพาะระหว่างที่เล่น และนาฬิกาจะหยุดเดินเมื่อเกมหยุด เช่น เมื่อเกิดการฟาวล์ หรือระหว่างการชู้ตลูกโทษ เป็นต้น ดังนั้นเวลาทั้งหมดที่ใช้แข่งมักยาวกว่านี้มาก (ประมาณสองชั่วโมง)
ในขณะใดขณะหนึ่งจะมีผู้เล่นในสนามฝ่ายละห้าคน และจะมีผู้เล่นสำรองสูงสุดทีมละเจ็ดคน สามารถเปลี่ยนตัวได้ไม่จำกัดและเปลี่ยนได้เฉพาะเมื่อเกมหยุด ทีมยังมีโค้ชที่ดูแลทีมและวางกลยุทธ์ในการเล่น รวมถึงผู้ช่วยโค้ช ผู้จัดการทีม นักสถิติ แพทย์ และเทรนเนอร์
เครื่องแบบนักกีฬาสำหรับทีมชายและหญิงตามมาตรฐานได้แก่ กางเกงขาสั้นและเสื้อกล้ามที่มีหมายเลขผู้เล่นชัดเจนพิมพ์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รองเท้าเป็นรองเท้ากีฬาหุ้มข้อเท้า อาจมีชื่อทีม ชื่อนักกีฬา และสปอนเซอร์ ปรากฏบนชุดด้วยก็ได้
แต่ละทีมจะได้เวลานอกจำนวนหนึ่งสำหรับให้โค้ชและผู้เล่นปรึกษากัน มักยาวไม่เกินหนึ่งนาที ยกเว้นเมื่อต้องการโฆษณาระหว่างการถ่ายทอดสด
เกมควบคุมโดยกรรมการและหัวหน้ากรรมการผู้ตัดสินในสนาม และกรรมการโต๊ะ กรรมการโต๊ะมีหน้าที่บันทึกคะแนน ควบคุมเวลา บันทึกจำนวนฟาล์วผู้เล่นและฟาล์วทีม ดูเรื่องการเปลี่ยนตัว โพเซสซันแอร์โรว์ และช็อตคล็อก

อุปกรณ์การเล่น

ลูกบาสเกตบอล
อุปกรณ์ที่จำเป็นจริง ๆ ในกีฬาบาสเกตบอลมีเพียงลูกบอลและสนามที่มีห่วงติดอยู่ที่ปลายทั้งสองด้าน แต่ในการแข่งขันต้องมีอุปกรณ์อื่นเพิ่ม เช่น นาฬิกา กระดาษบันทึกคะแนน สกอร์บอร์ด โพเซสซันแอร์โรว์ ระบบหยุดนาฬิกาด้วยนกหวีด เป็นต้น
ลูกบาสเกตบอลชายมีเส้นรอบวงประมาณ 30 นิ้ว (76 เซนติเมตร) และหนักประมาณ 1 ปอนด์ 5 ออนส์ (600 กรัม) ลูกบาสเกตบอลหญิงมีเส้นรอบวงประมาณ 29 นิ้ว (73 ซม.) และหนักประมาณ 1 ปอนด์ 3 ออนส์ (540 กรัม) สนามบาสเกตบอลมาตรฐานในเกมสากลมีขนาด 28 คูณ 15 เมตร (ประมาณ 92 คูณ 49 ฟุต) ส่วนในเอ็นบีเอมีขนาด 94 คูณ 50 ฟุต (29 คูณ 15 เมตร) พื้นสนามส่วนใหญ่ทำด้วยไม้
ห่วงที่ทำจากเหล็กหล่อ พร้อมทั้งเน็ต และแป้น ติดอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านของสนาม ในการแข่งขันเกือนทุกระดับ ขอบห่วงด้านบนอยู่สูงจากพื้น 10 ฟุต (3.05 เมตร) พอดีและถัดเข้ามาจากเส้นหลัง 4 ฟุต (1.2 เมตร) ถึงแม้ว่าขนาดของสนามและแป้นอาจแตกต่างกันออกไป แต่ความสูงของห่วงถือว่าสำคัญมาก ถึงตำแหน่งจะคลาดเคลื่อนไปไม่เพียงกี่นิ้วก็มีผลต่อการชู้ตอย่างมาก

ข้อบังคับ

ลูกสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเข้าหาห่วงโดยการชู้ต การส่งระหว่างผู้เล่น การขว้าง การเคาะลูก การกลิ้งลูก หรือ การเลี้ยงลูก (โดยการให้ลูกกระเด้งกับพื้นขณะวิ่ง ภาษาอังกฤษเรียก ดริบบลิง, dribbling)

ลูกจะต้องอยู่ในสนาม ทีมสุดท้ายที่สัมผัสลูกก่อนที่ลูกจะออกนอกสนามนั้นจะสูญเสียการครองบอล ผู้เล่นห้ามขยับขาทั้งสองพร้อมกันในขณะเลี้ยงลูก (เรียกว่า แทรเวลลิง, travelling) เลี้ยงลูกพร้อมกันทั้งสองมือ หรือเลื้ยงลูกแล้วจับลูกแล้วเลี้ยงลูกต่อ (เรียกว่า ดับเบิล-ดริบบลิง, double-dribbling) เวลาเลี้ยงมือของผู้เล่นต้องอยู่ด้านบนของลูก มิฉะนั้นจะนับว่า ถือลูก (carrying) ถ้าทีมพาลูกไปยังแดนของฝ่ายตรงข้ามของสนาม (frontcourt) แล้ว ห้ามนำลูกกลับเข้าแดนตนเอง (backcourt) อีก ห้ามเตะหรือชกลูก ถ้าทำผิดกฎข้อห้ามเหล่านี้จะเสียการครองบอล อีกฝ่ายจะเป็นฝ่ายได้ลูกไปเล่น แต่ถ้าฝ่ายรับทำผิดกฎฝ่ายที่ครองบอลจะได้เริ่มช็อตคล็อกใหม่
ผู้เล่นจะต้องนำลูกจากแดนตัวเองข้ามเข้าแดนตรงข้ามภายในเวลาที่กำหนด (8 วินาทีทั้งในกติกาสากลและเอ็นบีเอ) ต้องชู้ตภายในเวลา 24 วินาที ถือลูกขณะที่ถูกยืนคุมโดยฝ่ายตรงข้ามไม่เกิน 5 วินาที อยู่ในบริเวณใต้แป้นไม่เกิน 3 วินาที กฎเหล่านี้มีไว้เป็นรางวัลแก่การตั้งรับที่ดี
ห้ามผู้เล่นรบกวนห่วง หรือ ลูกขณะเคลื่อนที่คล้อยลงมายังห่วง หรือ ขณะอยู่บนห่วง (ในเอ็นบีเอ ยังรวมกรณีลูกอยู่เหนือห่วงพอดี) การฝ่าฝืนข้อห้ามนี้เรียก โกลเทนดิง (goaltending) ถ้าฝ่ายรับทำผิด จะถือว่าการชู้ตสำเร็จและอีกฝ่ายได้คะแนน แต่ถ้าฝ่ายรุกทำผิด จะไม่คิดคะแนนการชู้ตนี้ และเสียการครองบอล

ฟาล์ว

กรรมการแสดงสัญญาณฟาวล์โดยการเป่านกหวีดแล้วชูกำปั้นข้างซ้ายขึ้น
การเล่นที่กระทบกระทั่งผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามให้อีกฝ่ายเสียเปรียบและไม่เป็นธรรม ถือเป็นข้อห้ามที่ถ้าฝ่าฝืนจะนับเป็น ฟาวล์ (foul) ผู้เล่นตั้งรับมักจะเป็นคนทำฟาวล์แต่ผู้เล่นฝ่ายรุกก็สามารถทำฟาวล์ได้เช่นเดียวกัน คนที่ถูกฟาวล์จะได้ส่งลูกจากข้างสนาม (inbound) เพื่อเล่นต่อ หรือได้ชู้ตลูกโทษ หรือ ฟรีโทรว์ (free throw) ถ้าการฟาวล์เกิดขึ้นขณะกำลังชู้ตลูก การชู้ตลูกโทษลงห่วงครั้งหนึ่งจะได้หนึ่งคะแนน ผู้เล่นจะได้ชู้ตลูกโทษหนึ่งกี่ครั้งขึ้นกับว่าลูกที่ผู้เล่นชู้ตตอนถูกฟาวล์นั้นได้แต้มหรือไม่ เวลาชู้ตลูกโทษผู้เล่นต้องยืนหลังเส้นลูกโทษซึ่งห่างจากห่วง 4.5 เมตร (15 ฟุต)
การที่จะมีฟาวล์หรือไม่อยู่วิจารณญาณของกรรมการผู้ตัดสิน ว่าผู้เล่นเกิดการได้เปรียบในการเล่นอย่างขาวสะอาดหรือไม่ ทำให้บางครั้งมีความเห็นขัดแย้งกับการเรียกฟาวล์ของกรรมการ การกระทบกระทั่งในกีฬาบาสเกตบอลเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และการเรียกฟาวล์อาจแตกต่างกันในแต่ละเกม ลีก หรือแม้กระทั่งกรรมการตัดสินแต่ละคน
ผู้เล่นหรือโค้ชซึ่งแสดงน้ำใจนักกีฬาที่แย่ เช่น เถียงกับกรรมการ หรือ ชกกับผู้เล่นอื่น อาจโดนเทคนิคัลฟาวล์ หรือ ฟาวล์เทคนิค (technical foul) ซึ่งถูกลงโทษโดยให้อีกทีมได้ชู้ตลูกโทษ (รายละเอียดขึ้นอยู่กับลีก) ถ้าเกิดเหตุการณ์ซ้ำก็อาจถูกไล่ออกจากสนามได้ ฟาวล์ที่เกิดจากการเล่นที่รุนแรงเกินไป จะเรียกว่าฟาวล์ขาดน้ำใจนักกีฬา หรือ ฟาวล์รุนแรง (unsportsmanlike foul ในสากลหรือ flagrant foul ในเอ็นบีเอ) ก็จะได้รับโทษที่สูงขึ้นกว่าฟาวล์ธรรมดา บางครั้งอาจถูกให้ออกจากสนามด้วย
ถ้าทีมทำฟาวล์เกินกว่าที่กำหนด (ในหนึ่งควาเตอร์ หรือ ในครึ่งเกม) ซึ่งก็คือ สี่ครั้งสำหรับกติกาสากลและเอ็นบีเอ ทีมตรงข้ามสามารถชู้ตลูกโทษสำหรับการฟาวล์ที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อๆ ไป จากนั้นจนกว่าจะจบช่วง ไม่ว่าการฟาวล์จะเกิดขึ้นขณะกำลังชู้ตลูกหรือไม่ (รายละเอียดขึ้นอยู่กับลีก) ถ้าผู้เล่นฟาวล์รวมห้าครั้งนับเทคนิคัลฟาวล์ด้วย (บางลีก รวมถือเอ็นบีเอ ยอมให้ฟาวล์ได้หกครั้ง) ผู้เล่นนั้นไม่สามารถเล่นในเกมได้อีก เรียกว่าฟาวล์เอาท์ (foul out)
ข้อมูลจาก  https://th.wikipedia.org

นักกีฬาที่ชอบ (I dol)

                                                                    kobe  Bryant


ประวัติ  Kobe Bryant
ตำแหน่ง ชู้ตติ้งการ์ด

ฉายา Black Mamba

ความสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (1.98 ม)

น้ำหนัก 216 ปอนด์ (98 กก.)

สัญชาติ  สหรัฐอเมริกา

วันเกิด 23 สิงหาคม พ.ศ. 2521 (อายุ 31 ปี)

ฟิลาเดลเฟีย, มลรัฐเพนซิลเวเนีย

มหาวิทยาลัย Lower Merion HS

ดราฟท์ ลำดับที่ 13, 1996

ทีมที่เคยเล่น

เล่นระดับอาชีพ 1996–ปัจจุบัน

ทีมที่เคยเล่น ลอสแอนเจลิส เลเกอรส์ 1996-ปัจจุบัน

รางวัล ผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอ (2008)

ผู้เล่นทรงคุณค่าเอ็นบีเอรอบไฟนอล (2009)


วัยเด็กและครอบครัว
โคบีเป็นลูกชายของ Joe Bryant ซึ่งเป็นอดีตนักบาสเกตบอลทีม Houston และ 76ers ส่วนมารดาชื่อ Pamela Bryant มีพี่สาวสองคนชื่อ Sharia และ Shaya

เมื่อโคบีอายุได้ 6 ควบครอบครัวไปย้ายไปอยู่ที่ประเทศประเทศอิตาลีครอบครัวเขาได้ย้ายกลับสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 1991 เขาจบการศึกษาจาก Lower-Merion High-school

อาชีพนักบาสเกตบอล
เขาได้พบโค้ชของทีม 76ers John Lucas ได้มีการฝึกและทำงานร่วมกัน โดยในตอนการฝึกซ้อมนั้น Lucas ได้ให้โคบี้เล่นตัวต่อตัวกับ Jerry Stackhouse ดาวดังของทีมในขณะนั้นเพื่อทดสอบ และในปีต่อมาเขาได้เข้ามาใน NBA จากการดร๊าฟรอบแรกโดยได้อยู่กับทีม Charlotte Hornets ซึ่งต่อมาในปีเดียวกันนั้น โคบี้ได้ย้ามมาอยู่กับทีม LA laker ด้วยการแลกตัวกับ Vlade Divac จนถึงปัจจุบัน เขาลงเล่นครั้งแรกในปี 1996 โดยเป็นผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์โดยมีอายุเพียง 18 ปี 5 เดือน เขาได้แชมป์ 4 สมัยกับทีม LA Lakers ในปี 2000 2001 2002 2009 ติดทีมโอลิมปิคปี 2008 ซึ่งทีมชาติสหรัฐอเมริกาได้อันดับชนะเลิศ
ผลงานในการแข่งขันบาสเกตบอล
คว้าแชมป์ nestle crunch slam dunk

ผลงาน kobe  Bryant

เป็นผู้เล่นที่ทำแต้มมากสุดโดยทำในเกมส์เดียวอันดับสองคือ 81 แต้ม รองจาก Wilt Chamberlain ซึ่งทำได้ 100 แต้ม

ติด NBA all star ทั้งหมด 11 ครั้ง

เป็นแชมป์ NBA 4ครั้ง ปี 2000 2001 2002 2009,

เป็น MVP final 2009,

MVP 2008,

NBA scoring champion สองครั้ง 2006 2007,

All NBA first team 7ครั้ง ปี 2002-2004 2006-2009,

All NBA second team 2ครั้ง ปี 2000 2001,

All NBA third team 2ครั้ง ปี 1999 2005,

All defensive first team 7ครั้ง ปี 2000 2003-2004 2006-2009,

All defensive second team 2ครั้ง ปี 2001 2002,

NBA all rookie second team 1997,

NBA all star game MVP 3ครั้ง ปี 2002 2007,2009





เล่าประวัติก่อนจะมาเป็นนักบาสมืออาชีพ

ในชีวิตของโคบี้ ไบรอัน ไม่มีวันไหนที่เค้าจะไม่ได้ยินเสียงบาสกระทบพื้น ถ้าจะนับกีฬาบาสเป็นสิ่งเสพติด โคบี้ก็คงเป็นไอ้ขี้ยาตัวพ่อเลยทีเดียว โคบี้ ผู้พยากร์ณ์ชีวิตตนเองไว้ว่าจะต้องเปิดซุปเปอร์สตาร์ประดับวงการ NBA ให้ได้ และเค้าก็ทำมันให้เป็นจริง โดยยอดนักบาสจากไฮสกูล กระโดดข้ามขั้นมหาลัย ไปจอยวงการบาส NBA แบบฝีมือเกินหน้าเกินตาชาวบ้านกันเลยทีเดียว และในวัยเพียง 24 โคบี้กวาดแชมป์ NBA ไปแล้วสามสมัย และได้รับการยกย่องให้เป็น นักบาสยอดเยี่ยมตลอกกาล ในวงการยัดห่วงอีกด้วย และนี่คือประวัติของเค้า


โคบี้ ไบรอัน ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 1978 ที่เมือง ฟิลาเดลเฟีย บุพพาการีคือ โจ แอนด์ แพม ไบรอัน โคบี้มีพี่สาวสองคน และเค้าก็เป็นคนสุดท้องของตระกูล ชีวิตของโคบี้สมัยเด็กค่อนข้างจะแตกต่างไปจากเด็กทั่วไป เมื่อ โจ พ่อบังเกิดเกล้า ฮีโร่ยอดนักบาสผู้ถือกำเนิดจากสตรีทบาสเก็ตบอล อยู่ในเส้นทางการตามล่าหาฝันเพื่อจะก้าวไปสู่ นักบาสอาชีพ เหตุฉะนี้เอง ทำให้โคบี้ได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ
โคบี้เติบโตขึ้นกับบาสเก็ตบอล ไม่ว่าจะเป็นตอน กิน นอน เล่น ไม่เว้นแม้แต่ตอนหายใจก็เป็นบาสเก็ตบอล ปีถัดมา โจ ไบรอัน ถูกแลกตัวไปเล่นให้ทีม ซานดิเอโก อย่างไรก็ดี อากาศที่นั่นสดใส ทำให้โคบี้ไม่ต้องมัวแต่ไปหลบฝน และมีโอกาศพัฒนาฝีมือบาสเก็ตบอล และในวัยเพียงสามขวบนั่นเอง โคบี้เที่ยวไล่บอกคนอื่นด้วยความมั่นใจว่า เค้าจะเติบโตไปเป็น โครดดนักบาสอย่างแน่นอน

ใน ปี 1982 ครอบครัวไบรอันแพ็คกระเป๋าไปเมือง ฮูสตัน หลังจาก โจ ผู้เป็นพ่อได้เซ็นสัญญากับ ร็อกเก็ต โคบี้เรโตขึ้นมาและเริ่มเข้าใจในกีฬา บาสเก็ตบอลมากขึ้น หลังจากนั้นเค้าก็ติดตามวงการ NBA อย่างจริงจัง นักบาสในดวงใจของเขาคือ เมจิก จอห์นสัน จากนั้น โคบี้ก็นำสไตล์การเล่นของเมจิกมาฝึกฝน และมีเลกเกอร์เป็นทีมในดวงใจของเขา 


ครอบครัวไบรอันอยู่ที่ฮูสตันเพียง ซี ซั่นเดียว หลังจากร็อกเก็ตไม่ได้ต่อสัญญาให้ใหม่ อย่างไรก็ตาม โจเซ็นสัญญาใหม่กับทีม ริอีติ ประเทศ อิตาลี มหากาพย์เรื่องราวของครอบครัวไบรอันก็ดำเนินต่อ หลังจากโคบี้และพี่สาวใบ้รับประทานเพราะพูดภาษาอิตาลีไม่ได้ ทำให้การดำเนินชีวิตยากลำบาก อย่างไรก็ดี ชีวิตต้องสู้ โคบี้กับพี่สาวฝึกพูดภาษาอิตาลีหลังจากเลิกเรียนทุกวัน จนสามเดือนผ่านไป โคบี้และพี่สาวก็พูดอิตาลีได้คล่องปรือ


ในที่สุดโจก็ประสบความ สำเร็จกับเค้าบ้าง หลังจากโชว์ฟอร์มอันยอดเยี่ยม โจทำงานได้มากมายและครอบครัวเค้าก็ได้รับการยอมรับจากคนในประเทศ โคบี้ก็ยกย่องคุณพ่อเค้าเช่นกัน โดยติดตามไปดูเกมส์ของพ่อเค้าทุกครั้งที่มีเล่น และนำเทคนิคต่างๆของพ่อมาปรับปรุงให้กับสไตล์การเล่นของตัวเอง

ด้วย ไลฟสไตล์ของโคบี้ ทำให้โคบี้ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบาสของ NBA ให้ได้ แต่โลกเราก็เฉียดเสียซุปเปอร์สตาร์พรสวรรค์อย่างโคบี้ไป เมื่อประเทศที่มีแต่คนบ้าบอลอย่างอิตาลี คอยชักชวนโคบี้ให้ไปเล่นฟุตบอลในตำแหน่งผู้รักษาประตู โดยความแข็งแกร่ง ความคล่องแคล้ว และแขนที่ยาวใหญ่ อีกครั้ง โลกต้องขอบคุณ คุณตาคุณยายของโคบี้อีกครั้ง ที่อัดเทปเกมส์ระดับเทพ แล้วส่งมาให้ โคบี้ดูเพื่อให้โคบี้ยังคงเครซี่ในกีฬายัดห่วง

การเดินทางอันยาวนานของ ครอบครัวไบรอันก็จบลง เมื่อโจ รีไทร์หลังจากจบซีซั่นที่ฝรั่งเศล และตัดสินใจกลับ อเมริกาอย่างถาวร และโคบี้ก็อยู่ในวัยเข้าเรียนไฮสกูล

อย่างไรก็ตามชีวิตหลังจากกลับ มาปักหลักที่อเมริกาก็ไม่ได้ราบเรียบเสมอไป แต่หลังจากที่โคบี้ปรับตัวได้ ชีวิตในยูเอสเอก็เปรียบเหมือนสวรรค์สำหรับเค้า โคบี้กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ฟอร์มแจ่มฉุดไม่อยู่ เมื่อเค้าอยู่ในคอร์ตบาสและ ได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำซีซั่นอีกด้วย สำหรับเรื่องเรียนก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับโคบี้ หลังจากเค้าได้คะแนนดีในวิชาต่างๆ โคบี้เริ่มพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการก้าวกระโดดไปเล่น NBA อย่างจริงจัง และฟอร์มของเค้าก็เข้าตากรรมการอย่างจัง

หลังจากลองผิด ลองถูกในการหาทีมที่เหมาะสมให้กับตนเอง ในที่สุดโคบี้ก็ได้เซ็นสํญญานักบาสอาชีพกับทีมในฝันอย่างเลกเกอร์เป็นทีมแรก ว้าว!! สัญญาแรกของโคบี้กับทีมเลกเกอร์ทำเงิน มากกว่า 100 ล้านบาท โคบี้ซื้อบ้านแบบชิวๆขนหน้าแข้งไม่ร่วง พร้อมกับ บอกให้พ่อออกจากงานมาใช้เงินเล่นได้แล้ว จากนั้นครอบครัวไบรอันก็ย้ายมาสมทบกับโคบี้ที่ คาร์ลิโฟเนีย กับเค้า
หลังจากโคบี้เข้าร่วมทีมเลก เกอร์ในฐานะดาวรุ่งพุ่งโครดดแรง ความกระหายในความเก่งยิ่งขึ้นของโคบี้ก็ยังคงไม่หายไปจากเขา โดยเค้าทำเรื่องขอม้วนเทปของคนโครดดบาสจากสตาฟในทีมมาดูเพื่อศึกษา โดยเค้าใช้เวลาดูทั้งวันทั้งคืนกันเลยทีเดียว หลังจากการฝึกฝนอย่างหนัก พรสวรรค์ก็มาผนวกกับพรแสวง โคบี้กลายเป็นนักบาสที่หยุดไม่อยู่ซะแล้วว ไม่ว่าจะในเรื่องของการทำสกอร์ เค้าก็ทำให้มันเป็นเรื่องง่าย ยิ่งการเผชิญหน้ากัน หนึ่งต่อหนึ่ง ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงให้เมื่อยปาก ใครมาเจอกับโคบี้มีอันต้องอาย โดนกระชากฉีกหนีซะงั้น กระโดดชู้ตสามแต้มก็เป็นอีกหนึ่งทีเด็ดเช่นกัน ยังไม่รวมถึงความแข็งแกร่งและบอดี้บาลานซ์แบบคนเหนือคน อีกทั้งความเสมอตนเสมอปลายอีกด้วย
และแล้วตำแหน่งที่ทำให้โคบี้เป็น โครดดคนในตำนาน NBA ก็มาถึง เมื่อได้รับการไว้วางใจให้เล่นในตำแหน่ง เพลย์เมกเกอร์ จากนั้นความรุ่งโรจน์ก็มาเยือนทีมเลกเกอร์ เมื่อทั้งโคบี้ ทั้งจ่ายทั้งชู้ตจนเกือบทุกค่ำคืนที่โคบี้ลงเล่นเค้าไม่เป็น เพียงคนที่ทำแต้มได้สูงสุดแต่ยังเป็นคนส่งมากที่สุดอีกด้วย เรื่องการตั้งรับโคบี้ก็ไม่มีให้เห็นเป็นจุดอ่อนอีกด้วย โดยเขาได้รับการยกย่องว่าทำหน้าที่รับได้เวิรค์กว่าตัวรับอาชีพใน NBA ซะอีก จนถึงขนาดคู่แข่งเข็ดขยาดกับโคบี้และถ้าเป็นไปได้ไม่ขอเจอกับโคบี้ให้อับอาย ขายขี้หน้าดีกว่า
ความเก่งกาจของโคบี้จะช่วยทีมได้มากแค่ไหนเมื่อทีม เลกเกอร์ต้องเสียตัวหลักอย่าง โอนีลไปและต้องไปปะทะศึกหนักกับโคตรทีมอีกหลายๆทีมในรอบลึกๆต่อไปของเพลย์ออฟ เราคงพูดได้ไม่มาก เรารู้เพียงแต่ว่าเพื่อนๆในทีมอุ่นใจขึ้นแน่นอนเวลาพวกเค้าลงสนามพร้อมๆกับ นักบาสขั้นเทพอย่างโคบี้


***บาสเป็นกีฬาที่ทั้งโลกให้การยอมรับกีฬาบาสเป็นมีการเล่นหลายอย่างเช่น การเล่นstreetหรืการเล่นแบบธรรมดากีฬาบาสเน้นการชูตให้ลงห่วงเป็นหลักเพื่อที่จะทำคะแนนให้ได้มาก***
ข้อมูลจาก http://top-basketman.blogspot.com